เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับตัวเลขรายได้ ผู้ชนะของฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย
มีการเปิดเผยตัวเลขที่น่าสนใจว่า ทีมแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย จะได้รับเงินรางวัลก้อนโต้ถึง 38 ล้านดอลลาร์ หรือ 1,216 ล้านบาท เลยทีเดียว
ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่รัสเซีย จะมีการจ่ายเงินรางวัลรวมทั้งสิ้น 400 ล้านดอลลาร์ (ราว 12,800 ล้านบาท) ให้กับ 32 ชาติที่เข้าร่วมการแข่งขัน รายละเอียดมีดังนี้
สำหรับทีมที่ตกรอบแรกจะได้เงินขวัญถุง ทีมละ 8 ล้านดอลลาร์ (ราว 256 ล้านบาท)
ส่วนทีมที่ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย จะได้รับเงินรางวัลเพิ่มอีก 4 ล้านดอลลาร์ เป็น 12 ล้านดอลลาร์ (ราว 384 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม ทีมไหนทะลุเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ จะได้เพิ่มเป็น 16 ล้านดอลลาร์ (ราว 512 ล้านบาท)
และ 4 ทีมสุดท้าย จะได้รับเงินรางวัลแตกต่างกันไปตามผลงานของแต่ละทีม
โดยคู่ชิงอันดับ 3 จะแบ่งเงินรางวัลกันจากจำนวน 46 ล้านดอลลาร์ ซึ่งผู้ชนะจะรับไป 24 ล้านดอลลาร์(ราว 768 ล้านบาท)
ส่วนผู้แพ้ได้ 22 ล้านดอลลาร์ (ราว 704 ล้านบาท)
ขณะที่แชมป์ปีนี้ จะรับทรัพย์ก้อนโต 38 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,216 ล้านบาท) ส่วนรองแชมป์รับเงินปลอบใจ 28 ล้านดอลลาร์ (ราว 896 ล้านบาท) ต่างกันถึง 10 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
พวกเราพร้อมแล้ว!ทัพอุรุกวัยพร้อมสตาฟฝ่ายเทคนิคมาถึงรัสเซียแล้ว
บรรดาผู้เล่นทีมชาติอุรุกวัย พร้อมด้วย สต๊าฟฟ์ฝ่ายเทคนิค เดินทางมาถึง ประเทศ รัสเซีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา
พวกเขาดินทางมาถึงสนามบิน นิจนี่ นอฟโกร็อด ทางฝั่งตะวันออกของกรุงมอสโก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งแค้มป์ของพวกเขาอยู่ที่ บอร์ ห่างจากนิจนี่ นอฟโกร็อด เป็นระยะทาง 20 กิโลเมตร
สำหรับทีมชาติอุรุกวัย อยู่ในกลุ่มเอ. พวกเขาจะเปิดสนามฟุตบอลโลก 2018 ปะทะ อียิปต์ ที่ เยคาเตรินเบิร์ก วันที่ 15 มิถุนายน จากนั้นจะพบ ซาอุดิอาระเบีย ที่ รอสตอฟ-ออน-ดอน วันที่ 20 มิถุนายน และฉะ รัสเซีย ชาติเจ้าภาพ วันที่ 25 มิถุนายนที่ ซามาร่า
มานูเอล ลันซานี่ เพลย์เมเกอร์ของเวสต์แฮม ออกมาเผยถึงความรู้สึกหลังจากบาดเจ็บในตอนฝึกซ้อมกับทีมชาติอาร์เวนติน่า จนต้องอดไปบอลโลก เหมือนความฝันในวัยเด็กพังทลาย
เมโทร สื่อดังของอังกฤษ เผย เอด็อง อาซาร์ สตาร์ทีมชาติเบลเยียม ออกมากดดัน บอร์ดบริหาร เชลซี ว่าอนาคตของทีมจะไปทางไหน
เนื่องจากฤดูกาลที่ผ่านมา สิงห์บูลส์ ทำผลงานได้ย่ำแย่ ไม่ได้ไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แถมตัวกุนซือและนักเตะที่เข้ามาเสริมทัพยังคงเป็นเครื่องหมายคำถาม
“ผมแค่อยากรู้ ผมถามบอร์ดบริหารไปว่าทางไหนคือทางที่ดีที่ดีที่สุดทีคุณจะทำได้ ตอนนี้ผมมุ่งมั่นกับฟุตบอลโลก แต่ผมก็อยากรู้ ถ้าเรารู้ว่าในอนาคตผู้จัดการทีมหรือผู้เล่นจะไปใครมันเป็นสิ่งที่ดี ว่าคนเหล่านั้นจะนำพาความสำเร็จมาสู่สโมสร”ดาวเตะทีมชาติเบลเยียม กล่าว
เหอเป่ย ไชน่า ฟอร์จูน สโมสรในไชนีส ซูเปอร์ ลีกของจีน ได้แต่งตั้ง คริส โคลแมน
เป็นหัวหน้าโค้ชคนใหม่ คุมทีมต่อจาก มานูเอล เปเยกรินี่ ตามรายงานข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา
โคลแมน วัย 48 ปี ได้เซ็นสัญญา 3 ปีครึ่งกับ เหอเป่ย ซึ่งเขารับงานต่อจาก เปเยกรินี่ ที่ย้ายไปคุมทีมเวสต์แฮม ยูไนเต็ด
ในประวัติการคุมทีมของเขา เขาเริ่มบทบาทผู้จัดการทีมกับ ฟูแล่ม ปี 2003 – 2007 จากนั้นคุมทีมเรอัล โซเซียดาด, โคเวนทรี ซิตี้, เออีแอล, ทีมชาติเวลส์ และ ซันเดอร์แลนด์ ปี 2017 – 2018