ย้อนไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว รอย คีน เล่าถึงบรรยากาศในการฝึกซ้อมของแมนฯยูไนเต็ด สมัยที่ตัวเองเป็นนักเตะผ่านทางสกาย สปอร์ตส์ไว้อย่างน่าคิด
ด้วยความที่อยู่กับสโมสรมายาวนานตั้งแต่ปี 1993 ลากยาวมาถึง 2005 รวมแล้ว 12 ปีเลยทีเดียว จึงผ่านประสบการณ์อย่างโชกโชน อีกทั้งได้ร่วมงานกับบรรดานักเตะชั้นนำมากมาย โดยเฉพาะในแดนกลาง
นั่นทำให้ คีน แสดงความเห็นว่า บางครั้งการฝึกซ้อมแบบแบ่งข้างดวลกันเองภายในทีม ยังเข้มข้นดุเดือดมากกว่าแข่งจริงด้วยซ้ำ
“มันอาจจะฟังแล้วรู้สึกอวดเก่งเกิน แต่หนึ่งในความท้าทายที่ยากมากสำหรับผมคือ ตอนที่ทีมเราแบ่งข้าง 11 ต่อ 11 ต่อสู้กันช่วงซ้อม”
“มันจะเป็นวันอังคารหรือไม่ก็พฤหัสบดีที่เราจะมีโปรแกรมลักษณะนี้ ผมอาจได้ยืนคู่กับ พอล อินซ์ หรือ นิคกี้ บัตต์
“แล้วเมื่อดูไปทางอีกฝั่งจะมี พอล สโคลส์ และใครอีกสักคน และพวกเราต่างรู้ดีว่าแม้การซ้อม แต่ก็ต้องการชัยชนะ เราจะวิ่งกันพล่าน ทำงานอย่างหนัก ไม่มีใครอยากแพ้เลย”
“บางทีเกมที่หนักสุดอาจเกิดขึ้นช่วงกลางสัปดาห์ อันหมายถึงเวลาซ้อมนั่นแหล่ะ ไม่ใช่วีกเอนด์เลย เป็นเกมที่ผมต้องเจอเพื่อนร่วมทีม บอกเลยว่าจุดนี้ช่วยทีมเราพัฒนาได้เยอะ ยิ่งในแผงมิดฟิลด์ที่ห้ำหั่นกันดุเดือดจริงๆ”
“นี่ผมเจาะจงแค่พวกประจำตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง ไม่ได้เกี่ยวกับพวกริมเส้นอย่าง ลี ชาร์ป , ไรอัน กิ๊กส์ หรือ เดวิด เบ็คแฮม ซึ่งพวกนี้ก็เจ๋งในบทบาทตัวเอง”
“แต่ความพยายามจะเอาชนะกันตรงกลางสนาม มันเข้มเข้นมากๆเลย”
ฟังแล้วทำให้เราพอจะจินตนาการได้ว่า การซ้อมนั้นสำคัญขนาดไหนและทำไมแมนฯยูไนเต็ดยุคก่อนจึงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
ซ้อมอย่างไร เวลาลงสนามมักออกมาไม่ต่างกันนัก ฉะนั้นจึงต้องมุ่งมั่นจริงจังเสมอ ไม่น่าแปลกใจที่ คีน จะซีเรียสมากๆ ทำสมาธิให้แน่วแน่ก่อนลงซ้อมราวกับว่ามันคือเกมจริง
เขาจึงไม่ชอบที่เพื่อนร่วมทีมจะเหยาะแหยะ ทำเป็นเล่นหรือบางครั้งดูผ่อนคลายเกินไป จึงมักกระตุ้นอยู่บ่อยหน แม้รู้ดีว่าจะทำให้พวกน้องๆเครียดไปด้วยก็เถอะ
เพราะสุดท้ายผลลัพธ์ที่ออกมา มันจะเป็นประโยชน์กับสโมสรและตัวคุณเอง