ปีนี้การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ดำเนินมาจนจบรอบรองรองชนะเลิศและได้คู่ชิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือ 2 ยอดทีมจากอังกฤษ สเปอร์ส ปะทะ ลิเวอร์พูล


สิ่งที่หลายคนน่าจะคิดตรงกันก็คือ “ทำไมยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ปีนี้ แม่งโครตดราม่าจังเลย” เพราะ 2 ทีมที่ได้เข้าชิงในปีนี้ ก็ผ่านเข้าชิงแบบช็อคโลกทั้งคู่ ทางหงส์แดงทุกคนเห็นตรงกันหลังจากจบเกมส์แรก ที่โดนทีมต่างดาวยำถึง 3-0 ว่าตกรอบชัวร์ๆแล้ว แต่กลับพลิกถล่มบาร์ซ่าถึง 4-0 ในแอนฟิลด์ พลิกล็อคผ่านเข้าชิงอย่างเหลือเชื่อ ทั้งที่ในเกมส์นี้ พวกเค้าไม่มีทั้งฟีร์มิโน่และซาลาห์ 2 กองหน้าตัวความหวังของทีม

ทางด้านไก่เดือยทองก็ดราม่าไม่น้อยหน้ากัน พวกเค้าแพ้ในเกมนัดแรกแบบคาบ้าน ด้วยสกอร์ 0-1 ก่อนจะต้องบุกไปเยือนอาแจ็กซ์ ทีมพลังหนุ่มที่ฟอร์มดีมากๆ และในครึ่งแรกพวกเค้าก็โดนอาแจ็กซ์นำด้วยสกอร์ 2-0 รวม 2 นัด เสียเปรียบอย่างหนักด้วยสกอร์รวม 3-0 ตอนพักครึ่ง แฟนฟุตบอลแทบทุกคนเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า มันจบแล้ว สเปอร์สตกรอบแน่ๆแล้ว แต่แล้วใครจะไปเชื่อ สเปอร์สมาได้ 2 ประตูอย่างรวดเร็วในครึ่งหลัง โดยลูคัส มูร่า แล้วก็เป็นมูร่าคนเดิมที่ยิงประตูสุดดราม่าในช่วงวินาทีสุดท้ายของการทดเวลาบาดเจ็บ ช่วยให้สเปอร์สผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 3-3 โดยสเปอร์สผ่านเข้ารอบด้วยกฎอเวย์โกล สร้างฝันร้ายให้กับนักเตะของอาแจ็กซ์ รวมถึงแฟนบอลของพวกเค้าด้วย

ถ้าคิดว่า 2 แมตช์ที่ยกมานี่ ยังดราม่าไม่พอ บอกได้เลยว่า UCL ปีนี้ มีดราม่าให้ทุกคนได้ดูเยอะมากๆ ทั้งดราม่าประตูชัย ทั้งดราม่าแบบพลิกล็อค ไล่ตั้งแต่


-การเฉือนเปเอสเชของแมนยูที่ได้ประตูชัยช่วงทดเจ็บ โดยนัดแรกพวกเค้าแพ้คาบ้านไปก่อน 0-2
-ยูเว่ที่ยิงแซงแอต.มาดริดในช่วงท้ายเกม ทั้งๆที่นัดแรกแพ้มาก่อนถึง 2-0
-อาแจ็กซ์ที่บุกไปชนะแชมป์เก่าอย่างเรอัล มาดริดถึงเบอร์นาบิว ทั้งๆที่นัดแรกพวกเค้าแพ้ในบ้าน พร้อมกับการล้างใบเหลืองของรามอส
-ประตูชัยของปอร์โต้ ที่ยิงได้ในช่วงท้ายของการต่อเวลา ที่ทำได้ในเกมกับโรม่า
-การบุกไปชนะอีกครั้งของอาแจ็กซ์ โดยครั้งนี้เป็นทีมเต็งแชมป์อย่างยูเวนตุสที่ต้องผิดหวัง ตกรอบกันไป
-แมตช์สุดดราม่าแห่ง VAR สเปอร์สและแมนซิตี้ ที่ยิงกันถล่มทลาย ก่อนที่ VAR จะเข้ามาเป็นพระเอกในช่วงท้ายเกม
.
ทั้งหมดที่กล่าวมา นับเฉพาะรอบน็อคเอ้าท์เท่านั้นนะ ยังไม่รวมการเข้ารอบแบบเฉียดฉิวของ 2 ทีมที่เข้าไปชิงชนะเลิศอย่างลิเวอร์พูลและสเปอร์สในรอบแบ่งกลุ่ม ทั้ง 2 ทีมมีคะแนนและประตูได้-เสียเท่ากับอันดับที่ 3 ในกลุ่มด้วยกันทั้งคู่ แต่กลายเป็นว่าทั้ง 2 ทีมมาไกลถึงนัดชิงชนะเลิศได้เฉยเลย

มันเป็นปีแห่งดราม่าของวงการฟุตบอลยุโรปและวงการฟุตบอลโลกจริงๆ เป็นปีที่การรับชม UCL สนุกอย่างมาก มีครบทุกรสชาติ ซึ่งส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากมาตรฐานของแต่ละทีมที่ลงแข่งในปีนี้ มีความใกล้เคียงกันมากเลย จนนักวิเคราะห์วิจารณ์หลายคนก็บอกว่า ซีซั่นนี้ เป็นซีซั่นที่บอกได้ยากว่าใครจะเป็นเต็งแชมป์

นัดชิงชนะเลิศที่จะเกิดขึ้นในคืนวันที่ 1 มิถุนายน 2562 ณ สนามวันดาเมโตรโปลิตาโน กรุงมาดริด ประเทศสเปน แน่นอนว่ามันจะเป็นเกมที่สุดยอดมากๆเกมนึง ทั้ง 2 ทีมผ่านเข้ามาชิงชนะเลิศแบบดราม่าด้วยกันทั้งคู่ เรื่องกำลังใจแน่นอนว่ามาเต็มกันทั้ง 2 ทีม ซึ่งเอาจริงๆแล้วเราก็อดนึกไม่ได้นะ ว่านัดชิงชนะเลิศครั้งนี้ จะมีดราม่าอะไรอีกหรือไม่ คงต้องรอดูกันต่อไป แต่บอกได้เลย งานนี้มันส์แน่นอน